ด่วน! นายกฯอนุทิน เอาจริง แถลงการณ์ อนุมัติสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว...


 วันที่ 2 ต.ค.2568 เมื่อเวลา 16.10 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย แถลงผลประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า ที่ประชุมสมช.พิจารณา 2-3 เรื่อง ส่วนรายละเอียดประเด็นต่างๆ ทางเลขาฯสมช. จะเป็นผู้ให้รายละเอียด เรื่องแรกที่ประชุมอนุมัติหลักการการสร้างรั้วตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนกำหนดพิกัด กองบัญชาการกองทัพไทยจะไปดำเนินการตัดสินใจว่าจะสร้างตรงช่วงใด ขณะที่งบประมาณที่จะดำเนินการ ทางเลขาฯสมช.จะเป็นผู้แถลง โดยรั้วที่จะสร้างจะเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือแบบใดนั้น ต้องบอกว่ามีหลายรูปแบบ บางส่วนเป็นรูปแบบนี้ หรือจะเป็นรูปแบบอื่น ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ รวมถึงความสะดวกของประชาชนในแถบนั้น


โดยมีการถามถึงการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนนโยบายต้องใช้กฎหมายที่ถูกต้องและคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และผลกระทบต่างๆที่จะตามมา ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย ทางกองบัญชาการกองทัพไทย จะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะใช้กฎหมายตามกฎอัยการศึก,กฎหมายป่าไม้ หรือกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ในการดำเนินการ


ถึงขั้นใช้กำลังผลักดันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เขาคือชาวบ้านทั่วไป ไม่ใช่กองทัพ เราต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตของคนที่ลำบาก ซึ่งมีทั้งเด็ก สตรี และคนชราด้วย


เมื่อถามย้ำว่าถึงอย่างไรจะต้องผลักดันออกใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราจะพยายามทำอยู่แล้ว ส่วนไทม์ไลน์ที่จะให้กองทัพไปดำเนินการจะมีกรอบอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า จะเป็นวัน เวลา ตามที่เห็นเหมาะสม ซึ่งยังไม่น่าจะใช่วันที่ 10 ต.ค.นี้


เมื่อถามว่าเสียงของชาวบ้านในพื้นที่ จะเป็นแรงกดดันในการดำเนินงานหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องรับฟังเสียงจากทุกฝ่าย เมื่อถามว่าที่ประชุมสมช.ได้พูดถึงเรื่องเอ็มโอยู 43 และ 44 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ตรงนั้นเป็นเรื่องของสภา


เมื่อถามถึงเรื่องของการถอนกำลังของกัมพูชา นายอนุทิน กล่าวว่า อยู่ในกรอบของจีบีซีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ไปประชุมมาแล้วโดยระหว่างการประชุมเรายืนยันจุดยืนว่าก่อนที่จะดำเนินการใดๆในเรื่องของการเจรจาเรามีเงื่อนไขที่ต้องการให้กัมพูชาปฏิบัติตามแล้ว


ถามว่าในการประชุมระดับอาร์บีซี และจีบีซี เหมือนยังวนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้จะเริ่มไปไหนแล้ว ดูได้จากสิ่งที่จะเริ่มไปไหน คือ มีความคืบหน้าของการเจรจา เช่นกรณีที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ที่เดินทางไปที่ยูเอ็น ได้พูดถึงจุดยืนของประเทศไทยว่า สิ่งที่หลายคนเข้าใจ และสิ่งที่นานาชาติถูกทำให้เข้าใจที่จริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้นและข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ เพื่อนำไปสู่การเจรจาที่เราจะต้องดำเนินต่อไป

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น