เมื่อเร็ว ๆ มีรายงานว่า PHL-03 — ระบบขีปนาวุธหลายลำกล้อง (MLRS) ที่ฝ่ายกัมพูชาถือครอง — ถูกมองว่าเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ต่อไทย โดยขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถยิงได้ไกลถึง 130 กิโลเมตรจากจุดยิง ทำให้พื้นที่ที่อยู่ในรัศมี 130 กม. จากแนวชายแดนมีความเสี่ยงสูง โดยอาจครอบคลุมถึงหลายจังหวัดในภาคอีสานและภาคตะวันออกของไทย
ตามรายงานของทางการไทย มีความกังวลว่าหากขีปนาวุธนี้ถูกใช้งานจริง เป้าหมายอาจไม่จำกัดแต่ “ฐานทหาร” เท่านั้น — แต่รวมถึง “เป้าหมายยุทธศาสตร์ / โครงสร้างพื้นฐาน / ย่านชุมชน” ที่อยู่ลึกเข้าไปในไทยได้ด้วย
ขีปนาวุธ PHL-03 มีขนาด 300 มม. โดยเป็นระบบยิงหลายลูกพร้อมกัน (multiple-rocket launcher system: MLRS) ที่ติดตั้งบนรถบรรทุก 8x8 มีท่อยิงหลายท่อ — ทำให้สามารถปล่อยจรวดหลายลูกได้ในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้พิสัยการทำลายล้างครอบคลุม “พื้นที่กว้าง” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
ขั้นตอนเตือนภัย: เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 หน่วยงานของ กองทัพภาคที่ 2 (Thai 2nd Army Area) เคยออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยชี้ว่า PHL-03 อาจนำไปใช้โจมตี “เป้าหมายยุทธศาสตร์ หรือที่ตั้งทางทหาร” ที่อยู่ในระยะ 130 กม. ได้ 
ขณะที่ฝั่งกัมพูชาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก โดย Ministry of National Defence of Cambodia ระบุว่าข้อมูลที่เผยว่า “กัมพูชาย้ายอาวุธหนักเข้าแนวชายแดน” เป็น “ข้อมูลเท็จ” และกล่าวว่าข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่เพื่อ “ยุยงให้เกิดความตึงเครียด”
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ไทยยืนยันว่า “มีความระมัดระวังสูงสุด” — หวั่นว่าหากมีการยิงจริง อาจเกิดความเสียหายต่อชีวิตพลเรือน โครงสร้างพื้นฐาน หรือชุมชนที่อยู่ลึกเข้าไปในประเทศได้
เรื่องนี้จึงเป็นปัจจัยให้ “16 จังหวัดไทยที่อยู่ในรัศมี 130 กม. จากชายแดน” ถูกจัดเป็นพื้นที่ที่ “ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด” — โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนหรือจังหวัดใกล้แนวชายแดน
Cr. The Rangings
#เซราะกราวนิวส์




0 ความคิดเห็น