“ผู้เผชิญภัยที่พูดไม่ได้—เมื่อมนุษย์หนีน้ำได้ แต่สัตว์เลี้ยงกลับถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง”
ผู้เผชิญภัยที่พูดไม่ได้ เมื่อเกิดน้ำท่วม สัตว์เลี้ยงจำนวนมากกลับถูกทิ้งไว้กลางวิกฤติ
เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม หลายคนต้องหนีเอาตัวรอดอย่างเร่งด่วน บางครอบครัวไม่มีเวลาแม้แต่จะเก็บของมีค่า แต่ในความโกลาหลนั้น มี “ผู้เผชิญภัยที่พูดไม่ได้” อีกจำนวนมากที่กลับถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง—สุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงหลากหลายชนิดที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
น้ำท่วมไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติสำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่คือ “วิกฤติชีวิต” สำหรับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ พวกมันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าของไม่กลับมา และทำได้เพียงปีนขึ้นที่สูงที่สุดหรือร้องเรียกความช่วยเหลือด้วยเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน
สัตว์เลี้ยงจำนวนมากยังติดอยู่ในบ้านที่จมน้ำ
ทุกครั้งที่เกิดอุทกภัย หน่วยกู้ภัยและอาสากลุ่มต่าง ๆ จะพบสัตว์เลี้ยงถูกขังอยู่ในบ้าน บางตัวยืนเกาะประตูเพราะน้ำสูงถึงลำตัว บางตัวหนีไปบนหลังคาเพื่อเอาชีวิตรอด บางรายถึงขั้นอดอาหารหลายวันเพราะถูกทิ้งไว้โดยไม่ตั้งใจจากเจ้าของที่ต้องหนีอย่างเร่งด่วน
อาสาสมัครหลายกลุ่มเร่งช่วย “ชีวิตที่ไร้เสียง”
ช่วงน้ำท่วมใหญ่ เราได้เห็นภาพอาสากู้ภัยแบกสุนัขขึ้นเรือ นำแมวที่เกาะขื่อบ้านออกมาด้วยมือเปล่า หรือช่วยสัตว์เลี้ยงที่กำลังจะหมดแรงขึ้นจากกระแสน้ำแรง ภารกิจนี้ไม่ง่าย เพราะสัตว์บางตัวตกใจจนหนีหรือดุใส่ แต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า “ชีวิตหนึ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน”
การเตรียมพร้อมที่คนรักสัตว์ควรรู้
เพื่อป้องกันเหตุการณ์เศร้าใจแบบนี้ซ้ำอีก เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรวางแผนรับมือน้ำท่วม เช่น
เตรียมกล่องอพยพสัตว์เลี้ยง (อาหาร ยา สายจูง ไมโครชิป)
จัดเตรียมแผนหนีภัยแบบที่รวมสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย
แจ้งเพื่อนบ้านหรือคนใกล้ชิด หากต้องอพยพเร่งด่วน
เพราะพวกเขาคือครอบครัว
สัตว์เลี้ยงอาจไม่มีเสียงพูด แต่พวกมันมีหัวใจที่ผูกพันกับเจ้าของอย่างลึกซึ้ง ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ เราจึงควรนึกถึงพวกเขาเช่นเดียวกับที่เราห่วงใยคนในครอบครัว
น้ำท่วมอาจทำให้เราต้องรีบหนีเอาตัวรอด แต่สิ่งที่ไม่ควรหลงลืมคือ “ชีวิตเล็ก ๆ ที่รอให้เรากลับมาช่วย”








0 ความคิดเห็น