“ขนมปังปี๊บ” จากเสบียงทหารสู่ขนมแห่งความทรงจำของคนไทย 🇹🇭

🍞 “ขนมปังปี๊บ” จากเสบียงทหารสู่ขนมแห่งความทรงจำของคนไทย 🇹🇭


เรื่องราวความอร่อยที่เริ่มต้นจากสงคราม สู่ขนมบ้าน ๆ ที่อยู่คู่คนไทยมานานหลายทศวรรษ


⁉️ ที่มาของ “ขนมปังปี๊บ” ในประเทศไทย

🍪🍭🍩🍫🍬🍭

#ขนมบรรจุปี๊บ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ขนมปังปี๊บ” หรือ “ขนมปี๊บ” เป็นขนมที่หลายคนคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะคนรุ่นก่อนที่มักเห็นตั้งอยู่ตามร้านขายของชำในชุมชน บรรจุอยู่ในปี๊บโลหะขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยขนมกรอบหลากชนิด ทั้งคุกกี้ ขนมปังกรอบ พายกรอบ หรือแครกเกอร์ ที่มีกลิ่นหอมของเนยและนมชวนให้คิดถึงวัยเด็ก แต่รู้หรือไม่ว่าขนมชนิดนี้มีที่มาจาก “สงครามโลก” และ “อิทธิพลต่างชาติ”

ย้อนกลับไปในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 (ราว พ.ศ. 2482–2488) ประเทศไทยกลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่กองทัพต่างชาติ โดยเฉพาะทหารญี่ปุ่นและฝ่ายสัมพันธมิตรบางส่วน เดินทางเข้ามาตั้งฐานทัพ ขณะนั้นทหารต่างชาตินำอาหารและเสบียงจากประเทศตนเองติดมาด้วย หนึ่งในนั้นคือ “ขนมปังกรอบ” (Biscuit/Cracker) ที่สามารถเก็บได้นานโดยไม่เสียง่าย เหมาะกับสภาพการศึกสงคราม


แม้คนไทยจะรู้จัก “แป้งสาลี” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของขนมปังมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ผ่านการค้าขายกับต่างชาติ เช่น จีนและโปรตุเกส แต่ในเวลานั้นแป้งสาลียังเป็นสินค้าหรู มีราคาแพง และถูกใช้เฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น การมาถึงของทหารต่างชาติในช่วงสงคราม จึงนับเป็นช่วงเวลาที่คนไทยเริ่มได้สัมผัส “ขนมปังกรอบ” อย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรก


หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง วัฒนธรรมการบริโภคแบบตะวันตกเริ่มซึมซับเข้ามามากขึ้น คนไทยเริ่มรู้จัก เค้ก ขนมปัง ขนมอบต่าง ๆ แต่ร้านเบเกอรียังมีจำนวนน้อย และเครื่องมือในการอบยังไม่แพร่หลาย จนกระทั่งในยุค สงครามเวียดนาม (ราวทศวรรษ 2500–2510) ไทยได้กลายเป็นฐานทัพสำคัญของทหารอเมริกัน และช่วงนี้เองที่เป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญของอุตสาหกรรมเบเกอรีในไทย


เพราะในช่วงนั้นได้เกิด โรงงานโม่แป้งสาลีแห่งแรกของประเทศไทย ขึ้น ทำให้ราคาของแป้งสาลีลดลง และสามารถผลิตในประเทศได้เอง ส่งผลให้ร้านเบเกอรีและผู้ผลิตขนมอบเริ่มเติบโตมากขึ้น พร้อมกับการถือกำเนิดของขนมที่กลายเป็นตำนานอย่าง “ขนมปังปี๊บ”


ผู้บุกเบิกขนมปังปี๊บในประเทศไทยคือ บริษัทคงหงวน ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่เข้ามาตั้งโรงงานในไทย และเริ่มผลิต ขนมปังกรอบบรรจุปี๊บ เป็นรายแรก ลักษณะเด่นของขนมปังปี๊บคือ เก็บรักษาได้นาน, รสชาติเบา หอมมัน, และ ขายได้ในปริมาณมาก เหมาะกับการขายส่งให้ร้านโชห่วยทั่วประเทศ

ไม่นานนักก็มี ผู้ผลิตสัญชาติไทย เข้ามาตามรอย ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ทำให้ขนมปังปี๊บกลายเป็นสินค้าพื้นบ้านที่เข้าถึงได้ทุกครัวเรือน โดยเฉพาะในยุคที่ยังไม่มีขนมบรรจุถุงพลาสติกเหมือนในปัจจุบัน


ภายในปี๊บใบเดียวมักจะมีขนมหลากชนิด ทั้ง


ขนมปังกรอบเนย


ขนมปังแท่ง


คุกกี้เนย


พายกรอบ


แครกเกอร์โรยน้ำตาล

แต่ละชนิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางแห่งถึงกับอบขนมเองและนำมาบรรจุปี๊บขายให้ลูกค้าแบบ “ชั่งกิโล” ซึ่งกลายเป็นภาพจำของร้านโชห่วยในยุค 60–80



ขนมปังปี๊บจึงไม่ใช่แค่ของกินเล่น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์ของยุคแห่งความเรียบง่าย ที่อบอวลด้วยกลิ่นเนยและความทรงจำในวัยเด็ก ทุกครั้งที่เปิดฝาปี๊บขึ้นมาก็เหมือนเปิดประตูย้อนเวลาไปสู่วันวานที่ยังคงอบอุ่น


ปัจจุบัน แม้จะมีขนมสมัยใหม่มากมายให้เลือก แต่ “ขนมปังปี๊บ” ยังคงอยู่ มีผู้ผลิตรายเล็กในท้องถิ่นหลายแห่งที่สืบทอดสูตรดั้งเดิมจากรุ่นสู่รุ่น บางร้านยังใช้เตาอบถ่านแบบเก่า เพื่อรักษากลิ่นและรสชาติแบบคลาสสิกไว้ได้อย่างน่าประทับใจ


เพราะไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย “ขนมปังปี๊บ” ก็ยังเป็นมากกว่าขนมกรอบในปี๊บโลหะ — มันคือ ขนมแห่งความทรงจำของคนไทย ที่เติบโตมากับรสชาติหอมกรุ่นแห่งวันวาน 🍞✨


#ขนมปังปี๊บ #ขนมบรรจุปี๊บ #เรื่องราวขนมไทย #ของกินเล่นในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น