🇰🇭 ขอมั้ง! สาวเขมรแบก “พญานาคห้าหัว” ขึ้นเวที หวังเลียนแบบนางงามไทยชุดประจำชาติสุดปัง – โซเชียลจวกยับ “คิดเองไม่เป็น ต้องตามไทยตลอด!”

🇰🇭 ขอมั้ง! สาวเขมรแบก “พญานาคห้าหัว” ขึ้นเวที หวังเลียนแบบนางงามไทยชุดประจำชาติสุดปัง – โซเชียลจวกยับ “คิดเองไม่เป็น ต้องตามไทยตลอด!”


กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งในวงการนางงามระดับนานาชาติ เมื่อผู้เข้าประกวด Miss Grand Cambodia 2025 ปรากฏตัวในรอบชุดประจำชาติ ด้วยการสวมชุดที่มีองค์ประกอบคล้าย “พญานาคห้าหัว” ซึ่งชวนให้นึกถึงชุดของนางงามไทยที่เคยสร้างกระแสฮือฮาและคว้ารางวัล Best National Costume ไปก่อนหน้านี้

ภาพของสาวงามกัมพูชาผู้แบกเศียรพญานาคขึ้นเวที ถูกแชร์กระหน่ำในโลกออนไลน์ พร้อมเสียงวิพากษ์จากชาวเน็ตไทยจำนวนมาก ที่มองว่าเป็น “การลอกเลียนแนวคิด” และ “ขาดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม”



> “ประเทศอื่นเขาเผยแพร่วัฒนธรรมของตัวเอง

ส่วนเขมรเผยแพร่การเคลม”

— คอมเมนต์หนึ่งจากโลกโซเชียลที่ได้รับยอดไลก์ถล่ม



หลายคนถึงกับขำไม่ออก เมื่อเห็นรายละเอียดของชุดที่พยายามจำลองลักษณะของพญานาคไทยเกือบทุกจุด ทั้งสีทองวิบวับ ลายเกล็ดบนลำตัว และเศียรที่ประดับเครื่องหัวคล้ายของชุดนางนาคีที่ไทยเคยใช้ในการประกวดระดับโลกมาก่อน


แม้กัมพูชาจะเคยอ้างว่า “พญานาค” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตำนานของตนเช่นกัน แต่ผู้ชมหลายประเทศกลับชี้ว่ารูปแบบการออกแบบชุดนี้คล้ายกับของไทยอย่างชัดเจน ทั้งโครงสร้าง การจัดท่าทาง และแม้กระทั่งท่วงท่าการเดินโชว์


ชาวเน็ตบางส่วนยังแซวกันสนั่นว่า


> “เขมรมีพญานาคกับเขาด้วยเหรอ 😂”

“คิดเองไม่เป็นต้องรอไทยทำก่อนทุกที”

“อ้างว่าออริจินัล แต่ไม่เคยออกแบบเองได้สักครั้ง”



อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงอีกฝั่งหนึ่งที่มองในแง่ดี ว่าการหยิบเอาสัญลักษณ์อย่างพญานาคมาใช้ อาจสะท้อนถึง “รากวัฒนธรรมร่วมของอุษาคเนย์” ที่มีเรื่องเล่าคล้ายกันในตำนานต่าง ๆ เช่น ลุ่มน้ำโขงหรืออาณาจักรโบราณในภูมิภาคนี้


แต่ถึงอย่างนั้น เสียงส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์กลับยังคงมองว่ากัมพูชาพยายาม “เลียนแบบไทย” เพื่อเกาะกระแสความสำเร็จของนางงามไทยที่สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลก


ปิดท้ายด้วยคำพูดหนึ่งที่กลายเป็นไวรัลในทวิตเตอร์:


> “ไทยสร้าง เขมรลอก

ไทยออกแบบ เขมรเอาตาม

แล้วสุดท้ายก็บอกว่าเป็นต้นฉบับของตัวเอง 😅”


เรียกได้ว่า “พญานาคห้าหัว” ของสาวกัมพูชา กลายเป็นประเด็นเดือดที่ไม่ใช่เพียงเรื่องของแฟชั่นหรือการประกวดนางงาม แต่ยังสะท้อนถึงการช่วงชิงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ ที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบง่าย ๆ 



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น