กลุ่มอาชญากรรมเริ่ม ทยอยย้ายออกจากกัมพูชา “ไปเกาะร้าง” หรือ “ไปเวียดนาม”

 ◾️ข้อมูลใหม่ล่าสุด สแกมเมอร์ กัมพูชา🇰🇭

สื่อเกาหลีรายงานว่า เบาะแส อย่างน้อย 2 ราย ส่งข้อความขอความช่วย

เหลือแจ้งว่าถูกลักพาตัวจาก ฮานอย เวียดนาม  


วันที่: 15 ตุลาคม 2025 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วน Yonhap News,


กลุ่มอาชญากรรมเริ่ม ทยอยย้ายออกจากกัมพูชา “ไปเกาะร้าง” หรือ “ไปเวียดนาม”



ท่ามกลางความสนใจจากสื่อและรัฐบาล กลุ่มอาชญากรรมในกัมพูชาเริ่มเคลื่อนย้ายฐานจากศูนย์กลางขนาดใหญ่ไปยัง พื้นที่ห่างไกล เช่น เกาะร้าง หรือเขต ชายแดน และบางกลุ่มก็อพยพไปประเทศ เพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม, พม่า, หรือ ลาว


หนึ่งในผู้ที่ทำงานอยู่ใน “คอมเพล็กซ์ อาชญากรรม” แห่งหนึ่งในกัมพูชา ให้ สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Yonhap


“คอมเพล็กซ์ที่สีหนุวิลล์เริ่มย้ายตั้งแต่ เดือนก่อน ส่วนที่พนมเปญเริ่มเคลื่อน ย้ายต้นเดือนนี้”


มีรายงานว่า กลุ่มอาชญากรรมบางส่วนรีบ เคลื่อนย้าย “เฉพาะชาวเกาหลี” ออกจาก พื้นที่ก่อน และมีการเคลื่อนไหวรวดเร็วเพื่อ หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ


ปัจจุบัน เขตชายแดนติดกับพม่าและลาว รวมถึงพื้นที่ที่ห่างไกลในเวียดนาม กลาย เป็นจุดที่กลุ่มเหล่านี้เริ่มตั้งฐานใหม่อย่างเงียบ ๆ


มีรายงานว่า หลังจากที่มีความสนใจเพิ่มขึ้นต่อคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับชาวเกาหลีใน นิคมอาชญากรรม ภายในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีการกักขังและทำร้ายร่างกาย ชาวเกาหลีจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องในนิคมเหล่านั้นเริ่มรู้สึกกดดันและได้หลบหนีออกจากพื้นที่เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและการปราบปราม


มีรายงานว่าบางนิคมได้ย้ายฐานการดำเนินการไปยังพื้นที่หรือประเทศอื่น หรือย้ายเฉพาะชาวเกาหลีที่อยู่ในนิคมออกไป


ผู้ที่เคยทำงานในนิคมอาชญากรรมในกัมพูชารายหนึ่ง

(นามสมมติ B)กล่าวว่า “ส่วนใหญ่จะย้ายไปบริเวณชายแดน เพราะที่นั่นการตรวจสอบจากรัฐบาลเข้มงวดน้อยกว่า และพื้นที่รอบข้างไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้ผู้ถูกกักขังหนีได้ยาก”


ขณะที่เพื่อนของผู้ทำงานในนิคมอีกคนหนึ่ง (นามสมมติ C) กล่าวว่า “จุดหมายปลายทางจะขึ้นอยู่กับเจตนาของ ‘เจิ้นจู’ ซึ่งเป็นชาวจีน โดยประเทศที่นิยมย้ายไปมากคือ เวียดนาม เมียนมา ลาว และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีการค้ามนุษย์และการจ้างวานฆ่xเกิดขึ้นบ่อย”


เขายังเสริมว่า “นิคมอาชญากรรมที่มีอิทธิพลน้อยกว่าบางแห่งเพียงแค่ย้ายหลบชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์เงียบลงก็จะกลับมาดำเนินการอีก ส่วนกลุ่มใหญ่ เช่น ‘นิคมแทยาจันจี’ นิคมอาชญากรรมขนาดใหญ่ในกัมพูชา ยังคงอยู่และมีอิทธิพลเหมือนเดิม”


มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีการสร้างนิคมอาชญากรรมแห่งใหม่ในกัมพูชา โดยครั้งนี้เน้นพื้นที่เกาะที่เข้าถึงยากและยากต่อการหลบหนี


C กล่าวว่า “มีข่าวว่ากำลังมีการสร้างนิคมขนาดใหญ่ รองรับได้ราว 40,000 คน บนเกาะร้างที่ต้องนั่งเรือจากกัมพูชาไป 2–3 ชั่วโมง ถ้าถูกพาตัวไปที่นั่นโดยไม่ได้จ่ายเงินไถ่ในระดับหลายสิบล้านวอน ก็แทบถือว่าเสีxชีวิตแล้ว”


A ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกย้ายกล่าวว่า “ผมถูกย้ายมาเพราะได้ยินว่ามีการสร้างนิคมใหม่ใกล้ชายแดน ตอนนี้ยังไม่เปิดดำเนินการเต็มที่ แต่พื้นที่ตรงนี้ติดกับกัมพูชา ไทย และเวียดนาม ได้ยินว่าชาวเกาหลีจะถูกพามาเพิ่มอีกจำนวนมาก”


รายงานระบุด้วยว่า แม้กัมพูชาจะถูกจับตามองมากในช่วงนี้ แต่ความจริงแล้ว นิคมอาชญากรรมที่มีการกักขัง ทำร้าย และก่ออาชญากรรมต่อชาวเกาหลี เช่น คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ สแกมเมอร์ (Voice Phishing) หรือ Romance Scam นั้น กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


C กล่าวสรุปว่า “ไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น แต่ยังมีในลาว เมียนมา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย และจีนด้วย ดังนั้นจึงควรมีมาตรการรับมือในระดับภูมิภาค ไม่ใช่เพียงประเทศเดียว”

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น