“ปราสาทตาเมือนธม” กับความพยายามบิดเบือนของกัมพูชา : ความจริงที่ไม่อาจปิดบัง
“ปราสาทตาเมือนธม” โบราณสถานสำคัญในฝั่งไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรเป็นโบราณสถานของชาติไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 (ค.ศ. 1935) หรือกว่า 90 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานก่อนที่ประเทศกัมพูชาจะได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) และได้รับการยอมรับจากองค์การสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955)
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ชัดว่า ประเทศไทยได้แสดงความรับผิดชอบต่อมรดกวัฒนธรรมในพื้นที่ชายแดนแห่งนี้มาโดยต่อเนื่อง ยาวนาน และเปิดเผย ทั้งในแง่การขึ้นทะเบียน การบูรณะ การจัดทำเส้นทางท่องเที่ยว และการดูแลโดยภาครัฐผ่านหน่วยงานที่ชัดเจน อย่างสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี
แต่สิ่งที่น่าตั้งคำถามยิ่งกว่านั้น คือการที่กัมพูชา ซึ่งมีประวัติการปกครองต่อเนื่องเพียงไม่กี่สิบปีหลังหลุดพ้นจากอาณานิคม พยายามอ้างสิทธิในพื้นที่ซึ่งไม่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของตนเลยแม้แต่วันเดียวในยุคเอกราช
และนี่คือความพยายาม “ตีเนียน” ซ้ำรอยประวัติศาสตร์
กรณีของ “ปราสาทพระวิหาร” ในอดีต เป็นภาพจำที่คนไทยยังเจ็บจำ จากการนำข้อพิพาทที่ควรแก้ด้วยเหตุผล สู่เวทีปลุกกระแสชาตินิยมสุดโต่งผ่านการบิดเบือนข้อเท็จจริง
และวันนี้ เรากำลังเห็นบทละครเดิม ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งกับ “ปราสาทตาเมือนธม”
แม้จะทราบดีว่าประเทศไทยขึ้นทะเบียนและดูแลมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะรับรู้การบูรณะ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และการประกาศเป็นโบราณสถานมาตลอด แต่กัมพูชากลับเลือกเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงเหล่านี้ และหันมาใช้การ “สร้างสถานการณ์” ปลุกระดมผู้คน โดยอาศัยอารมณ์มากกว่าสติ
ความไร้ยางอาย...ที่โลกควรตั้งคำถาม
เมื่อประวัติศาสตร์และพิกัดทางภูมิศาสตร์ยืนยันตรงกันว่า “ปราสาทตาเมือนธม” อยู่บนดินแดนของไทยตามหลัก “สันปันน้ำ” ซึ่งเป็นวิธีแบ่งเขตแดนสากล แต่กลับมีความพยายามจะ “แอบอ้าง” และ “แทรกแซง” เพื่ออ้างในสิทธิ์ที่ไม่เคยเป็นของตน
คำถามจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมีสิทธิ
แต่คือ ใครที่กำลังโกหกตัวเองและประชาคมโลก
ประเทศไทยไม่เคยรุกล้ำ แต่พร้อมปกป้องเอกราชอธิปไตยด้วยข้อเท็จจริง ด้วยแผนที่ที่ยึดตามหลักสากล ด้วยการทำหน้าที่ดูแลมรดกวัฒนธรรมอย่างซื่อสัตย์
ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกลับเลือกใช้วิธี “บิดเบือน” และ “หลอกลวงประชาชนของตนเอง” เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น
ชาติที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้วัดกันที่เสียงตะโกน แต่วัดกันที่ “ความจริงที่กล้ายืนอยู่กับมัน” และในกรณีของ “ปราสาทตาเมือนธม” ความจริงนั้นคือ
"ที่นี่คือแผ่นดินไทย"
#smartsoldiersstrongarmy
0 ความคิดเห็น