ผลพลอยได้เชิงบวก! หลังจำกัดการข้ามแดนไทย-เขมร คดีหลอกลวงออนไลน์และค้ามนุษย์ลดลงกว่า 31.45%

ผลพลอยได้เชิงบวก! หลังจำกัดการข้ามแดนไทย-เขมร คดีหลอกลวงออนไลน์และค้ามนุษย์ลดลงกว่า 31.45%


จากมาตรการควบคุมและจำกัดการข้ามแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชาที่เริ่มบังคับใช้อย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ ล่าสุด หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยเปิดเผยว่า อัตราคดีหลอกลวงออนไลน์และการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวเนื่องกับชายแดนไทย-กัมพูชา ลดลงถึง 31.45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน


การดำเนินมาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นขบวนการค้ามนุษย์และเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ข้ามชาติที่มักใช้เส้นทางผ่านด่านชายแดนภาคตะวันออกของไทย เช่น จังหวัดสระแก้วและตราด เป็นช่องทางในการเคลื่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมายหรือเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานในลักษณะบังคับ


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการเพิ่มจุดตรวจ ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด และประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของกัมพูชาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลบุคคลต้องสงสัย ทำให้การเคลื่อนไหวของเครือข่ายอาชญากรเหล่านี้ทำได้ยากขึ้น


ผู้แทนจากศูนย์ปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีและอาชญากรรมไซเบอร์ ยังระบุเพิ่มเติมว่า กลุ่มขบวนการหลอกลวงออนไลน์ที่เคยใช้วิธีการล่อลวงคนไทยให้ข้ามไปทำงานในศูนย์คอลเซ็นเตอร์เถื่อนในฝั่งกัมพูชา ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการนี้ และหลายเครือข่ายเริ่มถอนตัวหรือย้ายฐานไปยังพื้นที่อื่น


การลดลงของอัตราคดีดังกล่าวไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการควบคุมพรมแดนเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างยั่งยืน



#ข้ามแดน #ไทยเขมร #คดีหลอกลวงออนไลน์ #ค้ามนุษย์ #ด่านชายแดน



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น