“แม่ทัพกุ้ง” อดีตแม่ทัพผู้ไม่ยอมแพ้ ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกที่ยังค้างคาใจเรื่อง "ปราสาทตาควาย"

 “แม่ทัพกุ้ง” อดีตแม่ทัพผู้ไม่ยอมแพ้ ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกที่ยังค้างคาใจเรื่อง "ปราสาทตาควาย"

ท่านเล่าว่า ท่านเป็นแม่ทัพที่ยึดแผ่นดินกลับคืนมาให้คนไทยได้มากที่สุดคนหนึ่ง และในช่วงที่การสู้รบดุเดือดนั้น กำลังพลก็ทุ่มเทเต็มที่ แม่ทัพกุ้งเล่าว่า พวกเราสู้กันถึง 4 คืน 5 วัน ก่อนหน้านั้นเราต้องไปยึด "ภูมะเขือ" คืนมาก่อน เพราะมันสวยงามมาก และเป็นเป้าหมายสำคัญ พอเราทำสำเร็จ เราก็กำลังจะ "โยกกำลัง" มาจัดการที่ปราสาทตาควายต่อทันที

แต่เรื่องที่เจ็บใจที่สุดคือ เวลาหมด พอถึงเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 68 (ตามที่ระบุในแหล่งข้อมูล) ก็มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ให้ "หยุดยิv" ทั้งที่ถ้าเดินหน้าต่ออีกนิดเดียวก็จะเอาปราสาทตาควายกลับมาได้แล้ว แม่ทัพกุ้งยืนยันเลยว่า ตอนนั้นสตาร์ทเครื่องเข้าเกียร์ 1 ไปแล้ว ถ้าหยุด ต้องออกมาบอกประชาชนให้รู้ว่า "ใครสั่งให้หยุดยิv" ซึ่งโทษร้ายแรงเทียบเท่าประหารชีวิตเลยทีเดียว

แม่ทัพกุ้งยืนยันว่า "จะเอาคืนแน่ เมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม" ท่านยังฝากข้อความถึงพี่น้องประชาชนว่า หากเมื่อใดที่ได้รับ "ไฟเขียว" ท่านก็พร้อมที่จะพาทุกคนไปจิบโค้กเย็นๆ ที่ปราสาทตาควายอย่างแน่นอน เพราะถ้าเราอ่อนแอไปเรื่อยๆ เขาจะมาหยามศักดิ์ศรีคนไทยทั้ง 70 ล้านคน เราต้องเข้มแข็งปกป้องไว้