🎞 ตามรอย “จูราสสิค เวิลด์” กลางเมืองกระบี่

ตามรอย “จูราสสิค เวิลด์” กลางเมืองกระบี่

มหกรรมไฟล้านดวง 8–17 สิงหาคม 2568 ณ ลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่

เมืองกระบี่ร้อนแรงกว่าที่เคย ไม่ใช่เพราะแสงแดด แต่เพราะความคึกคักจากงานใหญ่ “ตามรอยจูราสสิค เวิลด์ กระบี่” ที่จัดควบคู่ไปกับ มหกรรมไฟล้านดวง ระหว่างวันที่ 8–17 สิงหาคม 2568 บริเวณ ลานพระอาทิตย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ซึ่งตลอด 10 วันของการจัดงาน มีผู้คนนับหมื่นหลั่งไหลมาชมในแต่ละวัน โดยเฉพาะครอบครัวที่พาลูกหลานมาสัมผัสบรรยากาศของโลกไดโนเสาร์ในแบบที่ไม่ต้องบินไปถึงต่างประเทศ

ไดโนเสาร์จากทุกยุค…มาอยู่กลางเมือง

เข้าสู่โซนหลักของงาน สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ บรรดาไดโนเสาร์หลายตระกูลหลายสายพันธุ์ ที่ถูกจำลองขึ้นอย่างสมจริง ทั้งขนาด ความสูง และการเคลื่อนไหว เสียงคำรามที่ก้องออกมาจากลำโพงซ่อนตัวอยู่ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์จริง ๆ

ทีเร็กซ์ (Tyrannosaurus Rex) เจ้าป่าจอมโหดแห่งยุคครีเทเชียส ที่ยืนอ้าปากกว้างให้เด็ก ๆ กรี๊ดกัน

บรอนโตซอรัส (Brontosaurus) คอยาวกินพืชที่ดูสงบ อ่อนโยน

ไทรเซอราทอปส์ (Triceratops) ไดโนเสาร์เขาสามแสน่ารักที่เด็ก ๆ ชอบปีนไปถ่ายรูป

สไปโนซอรัส (Spinosaurus) ตัวใหญ่หลังมีสันคล้ายใบเรือ ดูดุดันราวกับจะกระโจนเข้ามา

และยังมี แร็พเตอร์ (Velociraptor) ตัวเล็กแต่ท่าทางว่องไวเหมือนหลุดออกมาจากหนัง Jurassic World

นอกจากนั้นยังมีไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ไม่ค่อยคุ้นตาอย่าง อังคิโลซอรัส (Ankylosaurus) เกราะหนาและหางเป็นค้อน, สเตโกซอรัส (Stegosaurus) หลังมีแผ่นกระดูกเรียงเป็นแนว และ เพเทอรานดอน (Pteranodon) ไดโนเสาร์บินได้ที่ถูกแขวนไว้สูงราวกับกำลังโฉบลงมา

เดินชมไฟล้านดวง…สว่างไสวทั่วงาน

ความพิเศษอีกอย่างของงานนี้คือการผสมผสาน ธีมจูราสสิค เข้ากับ งานไฟประดับล้านดวง บรรยากาศตอนกลางคืนสวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์ ไฟประดับถูกจัดเรียงเป็นเส้นทางเดินให้แสงสว่างทั่วลาน มีทั้งไฟรูปร่างต้นไม้, ดอกไม้ยักษ์, สะพานไฟโค้ง, และแน่นอน—ไฟรูปร่างไดโนเสาร์เรืองแสงที่ดึงดูดสายตาแบบสุด ๆ

โซนที่จัดเป็น “ป่ามหัศจรรย์” ที่ใช้ไฟสีเขียว น้ำเงิน และม่วง ทำให้บรรยากาศดูราวกับเดินอยู่ในโลกแฟนตาซี พอผสมกับเสียงป่าจำลอง ทั้งเสียงน้ำไหล เสียงแมลง และเสียงคำรามของไดโนเสาร์ ยิ่งทำให้รู้สึกอินมากขึ้น

บรรยากาศคึกคัก…ผู้คนนับหมื่นต่อวัน

เพราะเป็นงานใหญ่ที่จัดเพียงปีละครั้ง ทำให้ในทุก ๆ วันตั้งแต่เปิดงาน มีนักท่องเที่ยวทั้งคนในพื้นที่และต่างจังหวัดหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ผมไปช่วงวันเสาร์ คนแน่นตั้งแต่เย็น บางครอบครัวแต่งชุดธีมไดโนเสาร์มาเพิ่มความสนุก มีเด็กตัวเล็ก ๆ ใส่ชุดทีเร็กซ์เดินจับมือพ่อแม่ตาเป็นประกาย

สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารและของที่ระลึก มีทั้งหมวกไดโนเสาร์, ตุ๊กตา, โมเดลฟอสซิลจำลอง และขนมพื้นเมืองของกระบี่ เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย และเสียงแฟลชจากโทรศัพท์ดังไม่ขาดสาย

โซนขุดฟอสซิลจำลอง เด็ก ๆ จะได้ใช้แปรงและอุปกรณ์ขุดหาโครงกระดูกไดโนเสาร์ในกระบะทราย

เวิร์กช็อปเพนท์โมเดล ระบายสีไดโนเสาร์ตัวเล็กกลับบ้าน

โชว์ไดโนเสาร์มีชีวิต (Dinosaur Live Show) นักแสดงสวมชุดไดโนเสาร์เคลื่อนไหวสมจริง เดินมาทักทายคนดู

เวทีการแสดงแสง สี เสียง เล่าเรื่องราวยุคไดโนเสาร์ผสมการฉายภาพบนม่านน้ำ

ตอนที่ยืนอยู่ใต้คอยาวของบรอนโตซอรัส แล้วมองไฟประดับระยิบระยับด้านหลัง ผมรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ในโลกยุคจูราสสิคจริง ๆ ความรู้สึกนั้นยิ่งชัดขึ้นเมื่อเสียงคำรามของทีเร็กซ์ดังแทรกมา พร้อมกับลมเย็น ๆ จากเครื่องพ่นหมอกที่ทำให้บรรยากาศดูมีหมอกปกคลุม

แม้จะมีผู้คนมากมาย แต่บรรยากาศไม่ได้รู้สึกอึดอัด เพราะพื้นที่ลานพระอาทิตย์กว้างขวางพอสมควร เดินได้สบาย ถ้าหิวก็มีโซนอาหารให้เลือก ทั้งซีฟู้ดสด ๆ จากทะเลกระบี่, น้ำมะพร้าวเย็นชื่นใจ, และไอศกรีมโฮมเมดที่ขายดีมาก

เคล็ดลับการไปเที่ยวงาน

จากที่ได้ไปสัมผัสมา ผมมีทริกเล็ก ๆ มาฝาก

1. ไปช่วงเย็น จะได้ทั้งชมไดโนเสาร์ตอนกลางวันและเพลิดเพลินกับไฟล้านดวงตอนกลางคืน

2. เตรียมกล้องหรือมือถือที่ถ่ายกลางคืนได้ดี เพราะแสงไฟและไดโนเสาร์เรืองแสงสวยมาก

3. พกน้ำดื่มและร่ม กันแดดหรือฝน เพราะอากาศเดือนสิงหาคมคาดเดายาก

4. ถ้ามีเด็กเล็ก แนะนำให้หาจุดนัดพบกันไว้ เผื่อพลัดหลงเพราะคนเยอะ

5. จัดเวลามาช่วงวันธรรมดา ถ้าอยากเดินสบาย ๆ เพราะวันหยุดคนจะหนาแน่นมาก

สำหรับงาน “ตามรอยจูราสสิค เวิลด์ กระบี่” ปีนี้ เป็นหนึ่งในอีเวนต์ที่ทำให้รู้สึกว่า การท่องเที่ยวเชิงครอบครัว สามารถผสมความบันเทิงเข้ากับความรู้ได้อย่างลงตัว ทั้งยังสร้างสีสันให้เมืองกระบี่ช่วงกลางปีแบบชัดเจน

ผมเห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ ที่ได้เจอไดโนเสาร์ตัวโปรด ได้ถ่ายรูปกับไฟประดับสวย ๆ และได้วิ่งเล่นในพื้นที่กว้างใหญ่ ก็อดคิดไม่ได้ว่าภาพเหล่านี้จะกลายเป็นความทรงจำดี ๆ ในวัยเด็กของพวกเขา และสำหรับผู้ใหญ่ ก็ได้พักผ่อนคลายเครียด ได้เสพความงามของแสงสีและเสียงเพลงในบรรยากาศกลางแจ้งริมทะเล

ถ้าคุณยังไม่เคยไปสัมผัส โลกไดโนเสาร์ท่ามกลางไฟล้านดวง แบบนี้ ผมขอแนะนำให้ลองไปดูสักครั้ง โดยเฉพาะปีนี้ที่กระบี่จัดได้อลังการและคึกคักเป็นพิเศษ ไม่แน่ว่า…คุณอาจจะได้เจอทีเร็กซ์ยิ้มให้กล้อง หรือบรอนโตซอรัสก้มลงมาทักทายก็เป็นได้

เพราะสุดท้ายแล้ว การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้พาเราแค่ตามรอยโลกยุคดึกดำบรรพ์ แต่ยังพาเราได้เก็บเกี่ยวความสุขเล็ก ๆ ระหว่างครอบครัวและเพื่อนฝูง ท่ามกลางแสงไฟที่สวยราวดวงดาวนับล้าน