เดือดหน้าปราสาทตาเมือนธม! หญิงเขมรชี้หน้าด่าทหารไทย กล่าวหาล้ำแดน จุดชนวนเหตุวุ่นวาย

เดือดหน้าปราสาทตาเมือนธม! หญิงเขมรชี้หน้าด่าทหารไทย กล่าวหาล้ำแดน จุดชนวนเหตุวุ่นวาย

สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่คลี่คลาย เมื่อล่าสุดเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นอีกครั้งที่บริเวณ “ปราสาทตาเมือนธม” ในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ เมื่อหญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งก่อเหตุชี้หน้าด่าทอเจ้าหน้าที่ทหารไทยด้วยถ้อยคำรุนแรง กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไทย “ล้ำแดนกัมพูชา” ทั้งที่จุดดังกล่าวอยู่ในเขตการดูแลความมั่นคงร่วมกัน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้เกิดความวุ่นวายและบรรยากาศตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ จะเห็นหญิงเขมรรายนี้แสดงท่าทีไม่พอใจ เดินตรงเข้ามาหาทหารไทย พร้อมทั้งใช้มือลักษณะชี้หน้าและใช้ถ้อยคำก้าวร้าว กล่าวหาทหารว่า “เข้ามาในพื้นที่ของกัมพูชาโดยไม่ได้รับอนุญาต”


เจ้าหน้าที่ทหารไทยพยายามควบคุมสถานการณ์อย่างใจเย็น และไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง โดยมีการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจลุกลาม ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยู่ในบริเวณต่างรู้สึกไม่ปลอดภัย และบางส่วนเริ่มทยอยออกจากพื้นที่ทันที


หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ยกระดับมาตรการความปลอดภัย และขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวงดเดินทางเข้าใกล้เขตแดนในช่วงเวลานี้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ฝ่ายความมั่นคงไทยกำลังประสานไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงของกัมพูชาเพื่อขอคำชี้แจง และป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ


สำหรับปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นแหล่งโบราณสถานสำคัญที่ตั้งอยู่ในเขตชายแดน ซึ่งทั้งสองประเทศเคยมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดนมาก่อน แม้จะมีความพยายามในการร่วมกันดูแลและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตามปกติ แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับสะท้อนความเปราะบางของความสัมพันธ์ที่ยังคงมีปัญหาเรื่องการตีความเขตแดนอย่างต่อเนื่อง


เหตุการณ์หญิงเขมรด่าทอทหารไทยในครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างความไม่พอใจให้กับคนไทยจำนวนมาก แต่ยังกลายเป็นสัญญาณเตือนว่า การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจำเป็นต้องมีความชัดเจนและจริงจังจากทั้งสองฝ่าย เพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่หรือเจ้าหน้าที่ตกเป็นเหยื่อของความเข้าใจผิดหรือความตั้งใจยั่วยุที่อาจมีเบื้องหลังทางการเมืองแอบแฝงอยู่



#ชายแดนไทยกัมพูชา #ตาเมือนธม #หญิงเขมรด่าทหารไทย #ล้ำแดนหรือยั่วยุ #ความมั่นคงชายแดน



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น