มวลชนประมาณ 800 คนร่วมกิจกรรมจิตอาสารักษาของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566
วันนี้ 18 มิถุนายน 2568 เครือข่ายภาคประชาชนช่วยDSIรักษาของกลาง ได้จัดพิธีจิตอาสารักษาของกลาง ขึ้นบริเวณโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566 กิจกรรมภายในงานจัดให้มีพิธีทางศาสนา และพิธีเปิดงานจิตอาสารักษาของกลาง โดยมีนายมาโนช เพชรชู นายกสมาคมรัฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ (MPE) เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสารักษาของกลาง มีนายเทพพิทักษ์ วงศ์ไชยภาคย์ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนช่วยDSIรักษาของกลาง กล่าวรายงาน
จากความเดิมที่คณะเครือข่ายภาคประชาชน ผู้มีส่วนได้เสีย เครือข่ายสมาชิกสหกรณ์ กรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ที่หลงผิดเซ็นขายโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่งหวังจะได้เงินมาเสริมสภาพคล่อง แต่เมื่อซื้อขายเกิดขึ้นจริงกลับไม่ได้เงินมาเสริมสภาพคล่อง จนเกิดการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ธนาคารรัฐแห่งหนึ่งและอดีตกรรมการชุมนุมสหกรณ์ เนื่องจากการบริหารจัดการของกลุ่มกรรมการสหกรณ์ มีเงินหมุนเวียน สูงถึง 1,200 ล้านบาท แต่กลับบริหารเหลื่อเงิน เพียง 8,000 บาท ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของสมาชิกสหกรณ์และสหกรณ์สมาชิกอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้วว่าคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้รับคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ เป็นคดีพิเศษ ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนชุด 215/2565 ได้ปฏิบัติการยึดอายัดโรงงานและอนุญาตให้บริษัทเอกชนครอบครองทำประโยชน์ต่อ จึงส่งผลให้มีการร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)โดยเครือข่าย ป.ป.ช.ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายภาคประชาชน ด้วยสาเหตุนี้ขณะนี้ ป.ป.ช.กำลังสืบสวนสอบสวน อดีตผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขบวนการที่จะสมย่อมระหว่างกลุ่มบริษัทเอกชน และเจ้าหน้าที่ธนาคารรัฐแห่งหนึ่ง น่าเชื่อว่า เพียงกลุ่มเดียวที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจบริหารงานสหกรณ์ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ยังคงมีความพยายามเคลื่อนไหวเพื่อหวังมาเป็นเจ้าของโรงงานสกัดน้ำมั้นปาล์มคลองท่อม เมื่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ส่งสำนวนเดิม 215/2565 กลับมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีต่อไป กรมสอบสวนสคดีพิเศษได้ แต่ตั้งคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ และออกเลขคดีกำกับสำนวนเป็นคดีพิเศษที่ 56/2566 และมีคำสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีเดิม บางรายออกจากพื้นที่
ประธานเครือข่ายภาคประชาสชน กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการยึดอายัดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม ได้ถูกนำพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 และมีมติให้ไม่ให้บริษัทเอกชนที่ใช้โรงงานกระทำความผิดครอบครองใช้ประโยชน์อีกต่อไป ต่อมาผู้บริหารบริษัทเอกชนได้ยื่นฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าและเลขาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 56/2566 ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง แต่ในเวลาต่อมา บริษัทเอกชนได้ยื่นศาล ถอนฟ้อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ศาลฯยกฟ้อง เช่นเดียวกัน บริษัทเอกชนรายเดียวกันยังยื่นฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษพนักงานสอบสวนต่อศาลจั้งหวัดกระบี่ เรียกค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง และขอเข้าใช้ประโยชน์โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อมอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 28 มกราคม2568 ศาลจังหวัดกระบี่ อ่านคำพิพากษา ไม่อนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าใช้ประโยชน์จากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566 อีก ขณะที่การบริหารจัดการของกลางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม คณะพนักงานสอบสวนได้มีมติส่งมอบให้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ แต่กรมส่งเสริมสหกรณ์ปฏิเสธการรับของกลาง แต่ยินดีช่วยเหลื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในส่วนของการดูแลรักษา เครือข่ายภาคประชาชนซึ่งมีสมาชิกสหกรณ์ ผู้มีส่วนได้เสียกับคดีจำนวนมาก เครือข่าย ป.ป.ช.และเครือข่ายอื่นๆอีกหลายเครือข่าย ได้ประชุมร่วมกันและมีมติให้ ตั้งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนช่วย DSI รักษาของกลาง โดยมีนายเทพพิทักษ์ วงศ์ไชยภาคย์ เป็นประธานเครือข่าย เนื่องจากพวกเราชื่อมั่นในความสุจริตของหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566
คณะพนักงานสอบสวน และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษปัจจุบัน และศรัทธาต่อดุลพินิจ การพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ประจวบกับการเชื่อมั่นในตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติท่านปัจจุบัน เครือข่ายภาคประชาชนฯจึงแสดงเจตจำนงในการช่วยรักษาของกลางในคดีพิเศษ 56/2566 ไว้ ไม่ให้เสียหายที่เกิดขึ้นจากการไม่เดินเครื่องจักรเป็นเวลาต่อเนื่องนานวัน โดยคณะพนักงานสอบสวนได้มีมติให้ ตน และพวกเป็นผู้รวบรวมผลปาล์มนำเข้าสู่ระบบการบำรุงรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตาม พวกเราได้เข้าไปทำความสะอาด ซ่อมบำรุงรักษาตามแนวทางการกำกับของวิศวกรอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลา 2 เดือน และใช้ผลปาล์มเข้าสู่ระบบการบำรุงรักษาเครื่องจักร เพียง 30 วัน ไม่ต่อเนื่อง เป็นการเดินเครื่องจักรไปซ่อมไป เป้าหมายสูงสุดก็คือช่วยรักษาของกลางแบ่งเบาภาระของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 และต้องการรักษาของกลางไว้สนับสนุนคำพิพากษาของศาลและดุลพินิจของศาล ไม่มีเจตนาที่จะเอาของกลางไปหาประโยชน์แต่อย่างใด
0 ความคิดเห็น