ชุมพร – สาวแซบ เจ้าของบ้านทิพย์ หลอกเซ็นสัญญาและให้โอนเงินมัดจำค่าเช่าบ้าน พอขนของเพื่อเข้าไปอยู่ (เป็นบ้านใครก็ไม่รู้) เย้ยกฎหมายเอาผิดไม่ได้
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นาย ณัฐพงศ์ อยู่เป็นสุข อายุ 28 ปี นักร้องนำ วงซีซั่น ได้ร้องขอความช่วยเหลือกับทีมผู้สื่อข่าวหลังจากที่ได้ใช้เงินเงินเก็บสะสมมามัดจำห้องเช่าหวังจะพาเมียและลูกสองคนพร้อมกับยายป่วยติดเตียงเข้ามาพักอาศัยแต่โดนเจ้าเจ้าของบ้านเรียกมัดจำทำหนังสือสัญญาเช่าแล้วก็ถึงวันที่จะเข้ามาพักอาศัยก็ปฏิเสธไม่ให้เข้าโดยแจ้งว่าพ่อป่วยหนักจำเป็นจะต้องให้พ่อมาพักที่บ้านหลังนี้จึงขอยกเลิกการเช่าและจะคืนเงินมัดจำและค่าเสียเวลาค่าขนของต่างๆคืนให้แต่ก็ได้หลบหนีไปไม่สามารถติดต่อได้อีก
จากกรณี เมื่อวันที่ 1 พ.ค.68 ที่ผ่านมาผมและภรรยา ได้ขนของย้ายบ้านไปบ้านเลขที่ 51/141 ในคูขุด โครงการหมู่บ้านในพื้นที่ ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร เซ็นสัญญา วางเงินมัดจำ 5,500 บาท กับ นางสาวกันยรัตน์ (เจ้าของบ้าน ) พร้อมด้วยน้องสาวของภรรยาทำการเช่าบ้านติดกัน 51/142 (ผู้ปล่อยเช่าบอกว่าเป็นบ้านพี่สาว) มัดจำ 5,000 บาท หลังจากขนของไปบ้านหลังที่ทำการเซ็นสัญญาเช่าเรียบร้อย บ้านยังไม่มีการเคลียร์ห้องล็อค นางอ้างว่าหม้อไฟโดนตัด ยังเข้าอยู่ไม่ได้ เราก็รู้สึกแปลกๆแล้วจนมาเซอร์ไพรท์ว่าเขาไม่ได้เราให้เข้าอยู่แล้ว ส่วนหลังข้างๆ 51/142 (น้องสาวภรรยาเช่า)
นางให้เหตุผลว่าหลานชายยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ ขอเลื่อนไปอีก 3 วัน ค่อยเข้าอยู่ สืบจากคนในซอยในหมู่บ้าน ปรากฏว่าบ้านเลขที่ 51/142 ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย (เป็นบ้านใครก็ไม่รู้) โดนหลอกเต็มๆ ตอนนี้ข้าวของยังกองอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว สืบไปสืบมา มีผู้เสียหายที่เกิดจากการเช่าบ้านหลังนี้นับสิบๆ คนที่โดนหลอกเอาเงินมัดจำ ทั้งวีรกรรมอื่นๆที่โกงเขานับไม่ถ้วน
เพื่อนบ้านในละแวกนั้นเล่าว่ามีน้องคนหนึ่งมีคนโพสต์ขายของแล้วหนูก็ได้สั่งของไปพร้อมกับโอนเงินไปแล้วเพราะเป็นของขวัญปีใหม่แต่ก็ได้รับหลังปีใหม่ในช่วงแรกๆก็ไม่คิดอะไรก็เมื่อได้ของก็รับประทานกันหลังปีใหม่ต่อมาเค้าเริ่มโพสต์ขายลอตเตอรี่ลงใน LINE กลุ่มเพราะเราจะมี LINE กลุ่ม มีลูกค้าที่หลงไปซื้อลอตเตอรี่กับเขาเยอะมากหลายคนโอนตังไปแต่ไม่ได้ลอตเตอรี่ มี ผู้เสียหายจากการไม่ได้รับลอตเตอรี่หลายลายแต่ก็ไม่ได้ติดใจแจ้งความและบางรายก็ถูกหลอกโดยสั่งของมาและมาส่งไว้ที่หน้าบ้านก็โทรติดตามแจ้งบอกว่าให้ห้อยไว้ที่หน้าบ้านแล้วเดี๋ยวจะโอนให้แต่ก็ไม่มีการโอนให้โดยไปว่าจะให้แฟนโอนให้แต่ก็หายไปหลายราย รวมรวมแล้วค่าเสียหายหรือที่ถูกโกงไปนั้นก็เป็นเงินหลักแสนถึง 200,000 บาท มีกรณีแบบที่น้องโอนมัดจำมาแล้วไม่สามารถเข้าอยู่ได้นี้อีกจำนวนมากโดยทางน้องผู้เสียหายได้ตั้งกลุ่มว่าใครเสียหายก็เลยมีคนเข้ามาในกลุ่มจำนวน 30 รายแจ้งว่าเสียหายเช่นเดียวกันโดนหลอกลวงมาเรื่องมัดจำเงินเช่าบ้านเฉพาะเฉพาะที่เป็นบ้านเช่ากับของกินของใช้ ค่าแชร์ น่าจะหลาย 100,000 อยู่
นางสาวเมษญา ใจใส อายุ 30 ปีได้ติดต่อขอเช่าห้องพักโดยที่เค้าแจ้งว่าปล่อยให้เช่าเดือนละ 5500 ตกลงก็จะมาขอดูบ้าน 21 โดยทักไปในวันที่ 21 เมษา 2568 ก็มาดูที่บ้านหลังนี้เค้าก็โทรมาบอกว่าเค้ายังไม่ถึงบ้านเลยโดยที่เค้ากำลังซื้อของอยู่ก็ให้หนูเข้าไปดูในบ้านเองได้เลยโดยที่เขาแจ้งรหัสบ้านมาให้ ก็เลยเดินเข้ามาดูกับน้องสาวสองคนโดยที่แจ้งว่าประตูห้องนอนสองห้องล็อคไว้อยู่คือเจ้าของบ้านก็ให้ดูบริเวณรอบรอบบ้านภายในบ้านและจะมอบเครื่องโซฟาตู้เย็นห้องเอาไว้ให้ผู้เช่าด้วยโดยที่ให้เฟอร์นิเจอร์ครบเชื่อใจสนิทตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่ใช่เขาแต่เค้าบอกรหัสถูกต้อง โอนมัดจำในวันที่ 21 เลยวันที่ 29 แล้วก็ในวันที่ 29 หนูทำงานอยู่ที่ทำงานเจ้าของบ้านก็โทรมาบอกว่าจะเข้ามาทำสัญญาและในวันที่ทำสัญญาเค้าก็บอกว่าบ้านข้างข้างเป็นบ้านของพี่สาวก็ปล่อยเช่าก็เลยทักไปหาน้องสาวปล่อยให้เช่าเดือนละ 5000 ทางหนูเองเลยทักไปถามว่าทำไมของหนูถึง 5005 บ้านหลังนี้คือบ้านหลังเดียวกันหรือเปล่าเจ้าของบ้านแจ้งว่าเป็นอีกหลังหนึ่งที่อยู่ข้างข้างติดกันเป็นบ้านของพี่สาวก็เลยเสียเงินเป็นสองหลังทำสัญญากันและไม่เคยเจอเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ก็จะติดต่อทางวิดีโอคอลในวันที่หนึ่งที่หนูย้ายเข้ามาเค้าก็วิดีโอคอลบอกว่ากำลังเก็บของออกให้อยู่ พี่ชายมาขนของช่วย ถึงเวลานัดก็ แชท มาบอกว่าไม่ให้ค่าเช่าแล้วแล้วก็จะโอนค่าเสียหายค่ามัดจำอะไรคืนมาให้ทั้งหมด ให้สาเหตุว่าจะรับพ่อที่ป่วยออกมาพักที่บ้านหลังนี้เพราะพ่อจะต้องอยู่ในบ้านที่มีแอร์ตลอด
นาย ณัฐพงศ์ อยู่เป็นสุข เล่าว่า ความเดือดร้อนวันนี้คือเช่าบ้านอยู่แล้วไม่ได้เข้าอยู่ตามสัญญาเช่าไม่ตอนแรกครอบครัวผมและน้องเมียอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งก็ได้ทำการหาบ้านเช่าเพื่อจะมาเช่าอยู่รวมผมได้เช่าบ้านหลังนี้และได้ทำสัญญาเช่าโดยมัดจำล่วงหน้า 5500 บาทแล้วก็เจ้าของบ้านบอกว่าหลังข้างข้างก็ปล่อยให้เช่า ทางน้องเมียก็ได้ดำเนินการขอเช่าและคิดมัดจำหลังข้างข้าง 5000 บาทแต่ก็ถูกเจ้าของบ้านเบี้ยวเหมือนกันเพราะสืบไปสืบมาไม่ทราบเหมือนกันว่าเจ้าเจ้าของบ้านหลังที่ติดข้างข้างนี้เป็นของใครเพราะว่าบ้านหลังดังกล่าวยังมีคนอาศัยอยู่จึงได้เข้าไปสอบถาม จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกเพราะบ้านหลังดังกล่าวที่อยู่ติดข้างข้างมีเจ้าของอยู่แต่เค้าไม่ได้ปล่อยให้เช่า
ในวันที่ได้กำหนดย้ายเข้ามาเจ้าของบ้านแจ้งว่าหม้อไฟโดนตัดโดยแจ้งว่าคนอยู่เก่าไม่ได้จ่ายค่าไฟเลยถูกตัดหม้อไฟไปจึงยังเข้าอยู่ไม่ได้จึงขอเลื่อนออกไปก่อนผัดไปเรื่อยผัดไปเรื่อยจนเดินทางเข้ามาดูพบว่าห้องนอน ล็อก ข้าวของก็ยังเต็มบ้านอยู่เลย และได้สอบถามจากคนในซอยชาวบ้านจึงเล่าว่าอ๋อคนนี้เหรอจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกโอนเงินจึง แจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินเอาผิดตามกฎหมาย
ในตอนนี้ผมก็ยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ข้าวของผมก็ขนย้ายไปที่บ้านโน้นแล้วก็ยังไม่รู้จะไปเก็บที่ไหนข้าวของในตู้เย็นก็เน่าเสียหายหมดตอนนี้ก็ต้องมาพักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่เป็นนักดนตรีวงเดียวกันบอลขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบให้ผมด้วยเพราะเงินที่ผมใช้ไปก็เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย ที่จะดำเนินชีวิตครอบครัวต่อไปตอนนี้ก็มาถูกโกงแล้วน้องเมียของผมโดนแอบอ้างว่าเป็นบ้านของพี่สาวโดนหลอกลวงเอาทรัพย์ไปอีกหนึ่งรายรวมเบ็ดเสร็จแล้ว ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนี้เล่าให้ฟังว่ามีผู้เสียหายจากเหตุการณ์แบบนี้ร่วม 30 รายรายละไม่ต่ำกว่า 5000 บาท อยากจะให้ช่วยเหลือจับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อที่จะไม่ให้ไปกระทำกับคนอื่นต่อไป
ธนากร โกศลเมธี/รายงาน
0 ความคิดเห็น