ทราย สก๊อต เล่าความอึดอัด บริษัททัวร์ใช้แรงงานเด็กชาวมอแกน บนเกาะสุรินทร์ แลกค่าแรง 4 พัน ให้ทิปด้วยการเติมเน็ตมือถือ หวังว่าจะมีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้
วันที่ 4 พ.ค. 2568 ทราย สก๊อต หรือ สิรณัฐ สก๊อต เจ้าของฉายามนุษย์เงือก โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ทราย - Merman Ψ ระบุข้อความว่า *ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงใครแต่จะเล่าในสิ่งที่ทรายเห็นและเจอ เพื่อหวังว่าจะได้มีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นอุทยานเดียวในช่วงระหว่างที่ทรายทำงานเป็นที่ปรึกษาอธิบดีทรายจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เราเคยไปเกาะนี้แค่สามครั้งและถือว่าไม่อยากกลับไปอีก ทำไมทรายถึงรู้สึกอึดอัด?
ครั้งแรกที่ทรายไปเกาะสุรินทร์ก็จะเป็นสามปีก่อนหน้านี้ ตอนนั้นทรายได้จองทัวร์ นอน camp บนเกาะและดำน้ำ 3 วัน ทรายไม่ได้ทราบก่อนหน้าว่าทัวร์ที่ทรายจองนี้มีชื่อเสียงในพื้นที่เพราะเขานำเด็กชาวมอแกนมาเป็นเหมือนทัวร์ไกด์/ พนักงานสอนดำน้ำ น้องๆชาวมอแกนจะมีประมาณ 5-6 คน อายุตั้งแต่ 12-18 ... วันนึงน้องๆพา นทท ดำน้ำตั้งแต่ (คร่าวๆ 9 โมงเช้าจนถึงบ่าย สี่โมง) เตรียมอุปกรณ์ดำน้ำและ ดำน้ำถ่ายภาพกับแขก (บางทริปน้องๆต้องรับมือดูแล กลุ่มลูกค่าทัวร์ 10 คน!) รวมถึงทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้แขกและเก็บจาน ค่าจ้างและค่าตอบแทน? เดือนละ 4000 และทางเจ้าของทัวร์จะให้ tip เด็กๆด้วยการเติมเนตโทรศัพท์มือถือของน้อง ๆ เพื่อได้เล่นเกม
ตอนนั้นทรายไปเที่ยวรู้สึกอึดอัดมากๆ เพราะในสังคมธรรมดาเขาไม่ได้จ้างเด็กมาเป็นแรงงานและขนาดตอนทานข้าวเที่ยงบริษัททัวร์ดังกล่าวจะไม่ให้ น้องๆ (จริงสมควรเรียกว่าเด็กๆ ) มานั่งทานข้าวด้วยกัน- เด็กๆจะต้องนั่งตรงพนักงานไม่สามารถมาให้นั่งกับลูกค่าได้
สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้หญิงสาว ๆ ทัวร์นี้ก็จะให้เด็กชาวมอแกนผู้ชายถอดเสื้อถ่ายภาพด้วย เด็กๆชาวมอแกนกลุ่มนี้ จะทำงานทุกฤดูการท่องเที่ยวตามช่วงที่อุทยานเปิด น้องๆจะไป 'รับใช้' ทัวร์ทุกๆครั้งที่มีลูกค้าจองมา โดยจะมีผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนนึงที่คอย 'เกณฑ์' และ'รวบรวม' น้องๆมารายงานตัวกับทัวร์
ทรายสังเกตว่าสถานการณ์ที่น้อง ๆ มอแกนอยู่ไม่ปลอดภัยเลยหลังจากที่ทัวร์เสร็จทรายได้เบอร์ติดต่อน้องๆโดยตรงและจะคอยทักไปถามเรื่องการเป็นอยู่ และชวนมาทำกิจกรรมอาสาสมัครข้างนอกพื้นที่เกาะเพื่อจะได้โอกาสเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แต่น้องๆจะกล่าวเสมอว่าต้องถามทางเจ้าของทัวร์และทุกครั้งเจ้าของจะปฏิเสธไม่ให้น้องๆมา (หลักฐาน chat ลงใน post)
ชาวมอแกนอาศัยอยู่บนหาดเล็กๆบนเกาะสุรินทร์ในเขตอุทยาน ทั้งชุมชนอยู่บนหาดเดียวยาวประมาณ 230 เมตร ไม่สามารถขยายพื้นที่ได้แม้ว่า ประชากรเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ณ วันนี้พื้นที่หาดที่ชุมชนชาวมอแกนอาศัยมีบ้านเรียงติด ๆ กัน 100 กว่าหลัง ถ้าใครเคยไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ก็จะเห็นว่าสภาพสุขอนามัยเป็นสภาพที่ควรตั้งคำถามต่อการเป็นอยู่ของเขา
ครั้งที่สามล่าสุดที่ทรายไปเกาะก็คือตอนที่ทรายได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทรายเลยเอาเรื่องราวนี้เรียนหัวหน้าอุทยานช่วงต้นปีที่แล้ว ทรายเล่าว่ามีบริษัททัวร์ในพื้นที่อุทยานกำลังใช้แรงงานเด็ก ทางหัวหน้าบอกทรายว่าเขาทราบและรู้จักบริษัท (การพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้สงผลการเปลี่ยนแปลงใด) เพราะในสำนักงานอุทยานบนเกาะเองเขาก็ได้จ้างชาวมอแกน มาทำงานเก็บกวาด/ ทำงานครัว/ ทำงานแบกกระสอบข้าว/ ขนของ ช่วยงานอุทยานทั้งวัน เมื่อทรายถามพนักงานมอแกนว่าอุทยานให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่เขาตอบว่าเดือนละ 4000/5000
อยากเพิ่มข้อมูลให้ทุกคนว่าชาวมอแกนส่วนใหญ่เป็นคนไทยนะครับ (สมเด็จย่าได้ให้นามสกุลชาวมอแกนว่า 'กล้าทะเล' และหลายๆคนในชุมชนมีบัตรประชาชนไทย) ในช่วงต้นปีที่แล้วทรายได้แวะไปช่วยภารกิจอนุรักษ์ของอุทยานสามวันเลยได้นึกถึงน้อง ๆ ที่ทรายเคยรู้จักและชวนมาอาสาช่วยงานอุทยานกับทราย (ออกจากน้องๆ 6 คนที่ทรายรู้จักในปีที่ผ่านมาตายไปสอง) เหลือแค่ 4 คน
แต่สำหรับภารกิจรอบนี้ทรายได้น้องมอแกนมาร่วมกิจกรรมอาสาสมัครสองคนที่เหลือติดงานทัวร์ (รอบอื่นๆที่ชวนน้องมาร่วมกิจกรรมบริษัททัวร์ไม่ให้น้องมาแต่รอบนี้ทรายใช้อำนาจของตำแหน่งกดดันให้เขาปล่อยให้เด็กมา)
ทำไมทรายถึงนำน้องๆมาลองร่วมอาสาและเรียนรู้ในภารกิจของอุทยาน? ชาวมอแกนไทยเป็นแรงบันดาลใจส่วนนึงของหนัง Avatar Way of Water - เพราะชาติพันธุ์ของน้องๆและกรรมพันธุ์ของชาวมอแกนที่อยู่คู่ทะเลมาเสมอ เปลี่ยนให้ร่างกายของพวกเขาสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานกว่ามนุษย์ปกติและบางคนมีสายตาใต้น้ำดีมากๆ นี่คือพรสวรรค์ที่ทรายเห็นในตัวน้องๆกับตาจึงอยากให้เขามาช่วยภารกิจ + อีกเหตุผลที่ทรายอยากให้น้องๆมาร่วมกิจกรรมด้วยเพราะต้องการให้ น้องๆที่ทรายรู้จักได้มาอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่อุทยาน (ให้เจ้าหน้าที่เขารู้ว่าทรายรู้จักน้องๆ) เพื่อจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ
ภารกิจหลักของเราในสามวันนั้นคือการดำน้ำสำรวจปะการังด้วยและเก็บขยะ ซึ่งน้องๆเขาสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์แม้ว่าจะต้องดำน้ำไป 10 กว่าเมตรเขาสามารถดำลงไปตัดอวนและดึงกลับขึ้นฝั่งเร็วกว่าเจ้าหน้าที่บนเกาะเอง + เมื่อเราทำภารกิจสำรวจแนวปะการัง น้องๆสามารถชี้และสังเกต สัตว์ทะเลและเศษอวนเร็วกว่าทุกๆคนในกลุ่มทีมงาน
ช่วงเย็นทรายใช้โอกาสนั้งเรือไปที่หมู่บ้านชาวมอแกนและนั้งคุยกับชาวมอแกนท่านนึงเขาเล่าว่าชาวมอแกนบนเกาะไม่สามารถสร้างเรือตามรูปทรงของวัฒนธรรมของเขาได้ เพราะถูกกดดันว่าชาวมอแกนต้องซื้อเรือหางยาวจากฝั่งพังงามาทำทัวร์ (เพราะมันไปตามภาพของการท่องเที่ยวของทะเลใต้)
บนเกาะมีโรงเรียนหนึ่งโรงและมีคุณครูอาสาสมัครมาสอนท่านเดียว ครูคนนี้จะต้องสอนทุกๆวิชาและด้วยการเดินทางที่ลำบากบางครั้งก็จะไม่ได้มาสอนเด็กๆบนเกาะ. จึงส่งผลให้เด็กๆมอแกนไม่ได้รับการศึกษาเหมือนเด็กไทยคนอื่นๆ
หลังจากที่ภารกิจจบและทรายกลับฝั่งทรายได้รายงานอธิบดี เรื่องของการที่อุทยานจ้างชาวมอแกนเดือนละ 4000/5000 และมีแรงงานเด็ก สองเดือนต่อมาน้องชาวมอแกนที่มาช่วยอาสางานกับทรายทักมาบอกผ่าน messenger ว่าน้องอีกคนนึงที่ชื่อว่าน้อง ชล ถูกรถชนเสียชีวิตระหว่างที่เดินทางในตัวเมืองพังงา (น้องชล ได้โอกาสไปฝึกงานกับบริษัททัวร์แถวเกาะสิมิลัน/ น้องชลยังไม่อายุ 18 ปี)
น้องที่ติดต่อมาอยากให้ทรายช่วยคิดหาทางนำศพน้องชล กลับมาฝังศพที่เกาะสุรินทร์ ทรายเลยบอกน้องเขาว่าจะคุยกับอุทยานให้ แต่ทรายเองรู้สึกหดหู่มากว่าขนาดในกรณีแบบนี้ทำไมน้องๆเขาไม่รู้สึกว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บนเกาะได้ (หลักฐาน Chat เป็นภาพประกอบกับ post นี้)
ชาวมอแกน (ซึ่งเป็นส่วนนึงของประชากรคนไทย) เป็นสมาชิกที่สำคัญของสังคมเรา นอกเหนือจากกลยุทธ์และความสามารถทางดำน้ำของน้องๆ วัฒนธรรมและประวัติของชาวมอแกนเป็นสีสันของประเทศไทยที่เตือนให้เราทบทวนถึงความหลากหลายของคำว่า 'คนไทย'
ความเป็นอยู่ของชีวิตเขาสมควรคู่ควรกับความสามารถของเขา ทางองค์กรใหญ่ๆและภาครัฐควรเพิ่มโอกาสเพื่อส่งเสริมและนำความสามารถของเขามาเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ยกระดับการท่องเที่ยวทะเลไทยใต้ให้เป็นสีสัน หาไม่ได้ที่อื่น- นอกเหนือจากนั้นชาวมอแกนเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานในพื้นที่มาก ๆ เพราะเขาเข้าใจพื้นที่ดีกว่าคนอื่น ๆ
ทรายมาเล่าให้ทุกคนฟังเพราะผมสัญญากับตัวเองว่าเมื่อพร้อมและมีโอกาสทรายจะพูด และอยากให้ชาวมอแกนออกมาเล่าเรื่องราวของเขา อยากให้ทุกคนสนใจของเรื่องราวการเป็นอยู่ของน้องๆชาวมอแกน เพราะเด็กไทยทุกคนสมควรได้ชีวิตที่มั่นคงและปลอดภัย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทราย สก๊อต เล่าความอึดอัด บริษัททัวร์ใช้แรงงานเด็กชาวมอแกน บนเกาะสุรินทร์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th
0 ความคิดเห็น