ชาวบ้านไปรวมตัวกันที่สวนปาล์มหมดสัมปทานพื้นที่ หมู่ 13 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

 ชุมพร - ชาวบ้านไปรวมตัวกันที่สวนปาล์มหมดสัมปทานพื้นที่ หมู่ 13 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

 พี่น้องประชาชน ยืนหยัดต่อสู้ร่วม 30 วันในวันนี้ได้รับคำตอบชัดเจนจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ว่าพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน แห่งนี้ไม่มีผู้ที่มีสิทธิ์จะเข้ามาตัดและเก็บผลผลิตเมล็ดปาล์มได้

  วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น นายประคอง จิตรประสงค์ อดีต ผู้ใหญ่บ้าน 31 ปี นำชาวบ้านไปรวมตัวกันที่สวนปาล์มหมดสัมปทานพื้นที่ หมู่ 13 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เข้ามาทวงถามถึงความแน่ชัดกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ในสวนปาล์มหมดสัมปทาน แต่ขณะที่เข้าพื้นที่พบ แรงงานพม่าหลายคนกำลังตัดปาล์มในป่าหมดสัมปทาน เห็นชาวบ้านมากันมากกลัว ถึงกับวิ่งหนีป่าราบ ชาวบ้านเลยเก็บผลปาล์มมาใส่รถ รวมๆ หลายคัน   

  


    โดยนายประคอง จิตรประสงค์แจ้งว่าวันนี้ ไม่ได้เข้ามากระทำความผิดใดใดเพียงแต่เข้ามาตรวจสอบพื้นป่า สวนปาล์มหมดสัมปทาน เพราะยังมีการตัดปาล์มและนำปาล์มออกไปขายเป็นจำนวนมากส่วนต้นได้แจ้งว่าได้พาประชาชนเข้ามาตรวจสอบและอยากจะฟังคำตอบจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ว่าหากนายทุนยังมีการใช้สิทธิ์เข้ามาตัดปาล์มได้ ประชาชนก็คงจะสามารถเข้ามาตัดปาล์มเพื่อนำไปขายเลี้ยงชีพและครอบครัวได้เช่นเดียวกันกับ นาย ทุนที่เข้ามาตัดปาล์มอยู่ในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก



    ในช่วงเวลา 14.30 น. นายสมิทธิพล อุ่นสา นักวิชาการ ป่าไม้ ปฏิบัติการ หัวหน้ากรมป่าไม้ ปฏิบัติการและพัฒนาป่าไม้ท่าแซะ ได้เข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าทกรมป่าไม้จำนวน 20 นาย พบกับมวลประชาชนและได้พูดคุยกับ นายประคอง จิตรประสงค์ โดยเล่าถึงสถานะของพื้นที่ป่าสงวนในขณะนี้ตามกฎหมายแล้วไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเก็บผลของปาล์มได้แม้กระทั่งบริษัทดังกล่าวหรือจะเป็นประชาชนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเก็บเพราะผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนใจเย็นๆในการที่จะเข้ามาเก็บเกี่ยวผลิตผลของปาล์มเพราะรับทราบว่าทางรัฐบาลได้ดำเนินการที่จะจัดสรรแบ่งปันพื้นที่ให้กับประชาชนที่ยากจนจริงๆเข้ามาดำเนินการอยู่อาศัยและทำกินโดยเก็บผลผลิตเพื่อเลี้ยงชีพ ตนมีความคิดว่าหากมีประชาชนกระทำความผิดกฎหมายในกรณีในพื้นที่ดังกล่าวก็อาจจะเป็นข้อแม้ที่จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการรับการจัดสรรพื้นดินของป่าสงวนแห่งนี้เป็นต้น


นายประคอง จิตรประสงค์ จึงได้แจ้งให้กับประชาชนได้รับรู้รับทราบถึงผู้ที่ถือครองสิทธิ์ในป่าสงวนแห่งนี้จริงๆแล้วไม่มีใครเป็นเจ้าของและไม่มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการตัดผลปาล์มออกไปได้ เพราะอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ จึงขอให้ประชาชนไม่ให้เข้ามาตัดปาล์มเพราะมันเป็น การผิดกฎหมายขอให้รอทางรัฐบาลจัดสรรให้กับประชาชนได้เข้ามาถือสิทธิ์ต่อไปและขอขอบพระคุณประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้กันมาถึง 30 วันในวันนี้ได้รับคำตอบแล้วว่าไม่มีใครที่สามารถที่จะเข้ามาเก็บผลผลิตปาล์มได้แม้กระทั่งบริษัทดังกล่าวจึงขอให้ใจเย็นๆและรอรับฟังจากรัฐบาลต่อไป

ธนากร โกศลเมธี/รายงาน 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น